อาหารประจำชาติเชียงใหม่ เอ๊ย ไม่ใช่ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ใครๆ
มาแล้วต้องชิมให้ได้ ไม่อย่างนั้นเรียกว่า มาไม่ถึงเชียงใหม่ นั่นคือ “ข้าวซอย”
ซึ่งจะว่าไปแล้วในเชียงใหม่ก็มีข้าวซอยขายกันหลายเจ้า
เพราะไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวหรือผู้มาเยือนเท่านั้น ที่นิยมกินข้าวซอย แม้แต่ชาวเชียงใหม่เอง
ก็ยังนิยมบริโภค
ข้าวซอยเป็นอาหารประจำวันด้วย
เพียงแต่เราอาจจะไม่เน้นไปบริโภคร้านดังๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกัน เพราะคนเยอะและรสชาติก็อาจจะไม่ค่อยจะตรงกับรสนิยมของคนเชียงใหม่เท่าไรนัก
สำหรับวันนี้ จารย์บอม พาชิม จะนำท่านไปชิม ข้าวซอย
ซึ่งเป็นอาหารประจำวันของชาวเชียงใหม่ แต่เราจะพาไปร้านที่คนเชียงใหม่แท้ๆ
นิยมไปทานกัน ร้านนี้อาจเป็นร้านเล็กๆ แต่สำหรับชาวเชียงใหม่ ย่อมรู้จักกันเป็นอย่างดี
ในชื่อ “ข้าวซอยป้าหล้า ขัวเหล็ก”
ร้านนี้ ตั้งอยู่ริมถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน
ซึ่งเป็นถนนเลียบแม่น้ำปิง
ถ้าท่านมาจากตลาดวโรรส (กาดหลวง) ข้ามสะพานนวรัตน์ มาแล้วก็เลี้ยวขวาแป๊ปเดียว
ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ สังเกตง่ายๆ คือจะอยู่เยื้องๆ กับสะพานเหล็ก (ขัวเหล็ก)
และตรงกันข้ามกับคิวรถสองแถว เชียงใหม่-ลำพูน (รถสีฟ้า) ร้านข้าวซอยป้าหล้าจะอยู่ริมถนนเลย ติดกันกับ
ร้าน 7-11 บอกกันละเอียดขนาดนี้รับรองไม่หลงแน่
แต่ต้องสังเกตดีๆ หน่อย เพราะหน้าร้านจะดูมืดๆ คงมีแค่ป้าย
ที่พอจะทำให้รู้ว่าเป็นร้านข้าวซอย
แม้หน้าร้านจะดูเล็กๆ แคบๆ
แต่เดินเข้ามาในร้านแล้วจะตกใจ เพราะร้านนี้มีความลึกมาก และมีโต๊ะให้นั่งรับประทานอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย
ขณะที่ผมไปถึงนั่นก็ช่วงบ่ายๆ ล่ะ ผู้คนเริ่มบางตา
เลยหาโต๊ะนั่งได้ไม่ยากเท่าไร แต่ถ้าดูจากปริมาณโต๊ะ
คาดเดาได้เลยว่า ในช่วงไพร์มไทม์ ของป้าหล้า คงมีลูกค้าแวะมาอุดหนุนมากมายแน่นอน
เพราะโต๊ะเยอะซะขนาดนั้น คงไม่ตั้งไว้เท่ๆ ให้เกะกะหรือสร้างภาพ
พอได้ที่นั่งเรียบร้อย หันกลับไปจะสั่งอาหาร ตกใจเลยเพราะว่าลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามากันเพียบ ขนาดตอนบ่ายแล้วนะนั่น โดยป้าหล้ากำลังลงมือปรุงอย่างขะมักเขม้น ร้านป้าหล้ามีทีมงานช่วยกันอยู่สามสี่คน แต่โดยหลักป้าหล้าจะเป็นคนเหมาในการปรุงแต่เพียงผู้เดียว เพื่อความเป็นเอกภาพในรสชาติ
กำลังนั่งนึกๆ ว่าจะทานอะไรดี หันไปเห็นเมนูเด่นเป็นสง่าอยู่ข้างฝาร้าน นอกจากข้าวซอย ไก่ หมู เนื้อ ยังมีก๋วยเตี๋ยว มีบะหมี่ มีขนมจีนน้ำเงี้ยว แม้กระทั่งส้มตำ ไว้บริการผู้ที่ไม่นิยมบริโภคข้าวซอยอีกด้วย เรียกกันว่า ป้าหล้ามีบริการครบเครื่องเลย แต่เนื่องจากวันนี้มาชิมข้าวซอย ผมจึงจำเป็นต้องสั่งข้าวซอย โดยลองสั่งมา 2 จาน คือข้าวซอย ไก่ กับ ข้าวซอยลูกชิ้นหมู ตอนเดินไปสั่ง ลองแอบไปดูว่า น้ำแกงของข้าวซอยที่ป้าแกอุ่นอยู่บนเตา หน้าตาจะเป็นอย่างไร น่าทานแค่ไหน และไม่พลาดแอบถ่ายรูปมาให้ดูด้วย
จะเห็นได้ว่า ป้าหล้านำน้ำข้าวซอย อุ่นไว้ตลอดเวลา บนเตาแก๊สและสีสันก็น่าทานมาก มีมันของกะทิแตกตัวลอยอย่างสวยงาม ส่วนจะอร่อยตามที่จินตนาการไว้หรือไม่ ต้องรอสักครู่ เดี๋ยวคงได้รู้กัน ขณะกำลังรอข้าวซอย ทีมงานป้าหล้าก็นำสิ่งนี้มาเสริฟก่อนเลยนั่นคือ
มะนาว หัวหอม และ ผักกาดดอง อันนี้คือเครื่องเคียงที่ทานพร้อมกันกับข้าวซอยเพื่อให้ได้รสชาติที่ฟินยิ่งขึ้น จะเห็นว่าบางร้านก็จะใส่รวมๆ กันมา แต่ป้าหล้าจะแยกจานมาอย่างที่เห็น จะรีวิวข้าวซอยทั้งที จะรีวิวแค่ข้าวซอยอย่างเดียวก็จะกระไรอยู่ ขอแถมรีวิว มะนาว หัวหอม และ ผักกาดดอง ไปด้วยเลย เริ่มที่ ผักกาดดอง
ผักกาดดองของป้าหล้า ผมถือว่าเป็น Signature ของร้านนี้เลยทีเดียว
ผมเคยทานข้าวซอยมาหลายร้านไม่มีร้านไหนที่ผักกาดกองเหมือนของป้าหล้า เพราะผักกาดดองร้านนี้จะมีรสหวาน ปนมาด้วยนิดๆ
เรียกว่าหยิบทานเปล่าๆ ใส่ปากได้ แต่ร้านอื่น ส่วนมากจะออกแนวเค็มปี๋
อย่างเดียวและผักดูไม่ค่อยสด ดูเศร้าๆ เหงาๆ หงอยๆ ชอบกล
แต่ผักกาดดองของป้าหล้าเป็นแนวหวานปนเค็มนิดๆ
ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของร้านนี้
ต่อจากผักกาดดอง เรามาดูที่มะนาวกับหัวหอม จะว่าไปแล้ว มะนาว ก็คือมะนาว หัวหอมก็คือหัวหอม แต่ที่ผมชอบคือ หัวหอมของป้าหล้า มีความหนา สด และ กรอบอร่อย ส่วนมะนาวป้าหล้าก็ให้มาแบบจุใจโดยไม่เกรงใจว่าราคามะนาวจะแพงหรือถูก ระหว่างรีวิวไป ก็รอแปปเดียวเท่านั้น ข้าวซอยก็มาเสริฟให้ถึงโต๊ะแว้วว
เริ่มต้นด้วยข้าวซอยลูกชิ้นหมู หน้าตาตามที่เห็นในรูป จุดเด่นของข้าวซอยป้าหล้า ถ้ามองด้วยสายตาแว่บแรกคือ องค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นเกี๊ยวทอด และเส้นกรอบ ซึ่งราดน้ำกะทิ มาหน่อย ทำให้ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งน้ำแกงขลุกขลิกกำลังดี อย่ากระนั้นเลยก่อนจะลองชิม ลองไปดูรูปอีกชามหนึ่งซึ่งเป็นข้าวซอยไก่กันก่อนดีกว่า
ข้าวซอยไก่ของป้าหล้า นี่ไก่มาเป็นน่องบิ๊กๆ เลยนะครับ ไม่มีหน่อมแน้ม ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ ก็เหมือนข้าวซอยลูกชิ้นหมูทุกประการไม่ว่าจะเป็นเกี๊ยวทอดหรือ น้ำแกงแบบขลุกขลิก หลังจากที่ชื่นชมองค์ประกอบและภาพลักษณ์ของข้าวซอยป้าหล้าพอสมควรแล้วก็ได้เวลาตักเข้าปากเพื่อชิมกันแล้วครับ
ขอบอกเลยว่าจุดที่ประทับใจจุดแรกคือ
เส้นข้าวซอยของป้าหล้า เหนียวนุ่มกำลังดี และรสชาติของน้ำข้าวซอยนี่ผมให้เต็ม 10 ไปเลย คือ ไม่เผ็ดจนเกินไป
(เหมาะสำหรับคนไม่ทานเผ็ดมากอย่างผม) และมีความกลมกล่อม
ไม่ร้อนจนปากพองหรือเย็นชืดจนไร้รสชาติ
ที่ประทับใจยิ่งกว่านั้นคือ ทั้งเส้นกรอบและเกี๊ยวกรอบ
ไม่เหม็นหืนและยังคงความกรอบอร่อยไว้ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งป้าแกให้มาแบบไม่หวงของ เพราะที่เห็นๆ
ให้มาเยอะๆ นี่ ราคาเพียงแค่ชามละ 30 บาทเท่านั้นนะครับ
ส่วนสำหรับท่านที่ชอบเผ็ด ทางร้านป้าหล้าก็มีพริกเผาใส่แก้วไว้ให้ตักเพื่อเพิ่มความเผ็ดได้ตามใจชอบ แต่ขอเตือนให้ชิมก่อนปรุง เพราะว่า พริกเผาที่ว่านี่เผ็ดมาก แต่ถ้าคนไม่ทานเผ็ดมาก รสชาติที่ป้าหล้าปรุงมาให้นี่ถือว่า กำลังดีแล้วครับ
ลืมบอกไปร้านนี้ มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกด้วยครับ ผมลองสั่งโอเลี้ยงกับชามะนาวมา สำหรับชามะนาว ไม่ผ่านนะครับ ใสไปและรสชาติไม่โอเค ส่วนโอเลี้ยงนี้ผ่านให้ 8/10 สำหรับสนนราคาเครื่องดื่มก็ถือว่า ยุติธรรมดีมาก คือแค่ 10 บาทเท่านั้น กินเพลินๆ หันไปอีกที ขนาดบ่ายแล้วนะครับ ลูกค้าเต็มร้านเลยอย่างที่เห็น
สำหรับความสะอาดและอนามัยภายในร้านป้าหล้า ต้องทำใจนิดหนึ่งครับ พื้นและบนโต๊ะอาจจะไม่สะอาดเอี่ยมอ่อง ขนาดโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัย อาจมีเศษกระดาษทิชชูและสารพัดสิ่งตกอยู่บนพื้นบ้าง และความสว่างในร้านอาจจะน้อยไปนิด ซึ่งถ้าไม่สะดวกใจจะนั่งทานก็สามารถซื้อกลับไปทานที่บ้านได้ โดยรวมเรื่องบรรยากาศภายในร้านผมให้ 6/10
ก่อนจะจบรีวิว ผมเดินไปถ่ายรูปบรรยากาศการปรุงอาหารของป้าหล้า พร้อมอุปกรณ์และวัตถุดิบรอบๆ ตัวแก จะเห็นได้ว่า ภาชนะต่างๆ ที่ใช้ก็ออกแนวบ้านๆ แบบคุณยายคุณป้า ทำให้ลูกๆ หลานๆ กินที่บ้าน ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง ในแบบเชียงใหม่ได้เหมือนกัน ส่วนตัวผมก็ชอบที่จะมาทานข้าวซอยร้านนี้มากกว่าร้านดังๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปทาน เพราะป้าหล้าเป็นคนใจดี ให้เยอะและราคาไม่แพง ไม่ว่าจะไปครั้งใด ก็จะได้รับรอยยิ้มและคำทักทายจากป้าเสมอ เหมือนในรูปที่นำมาฝากนี่ล่ะครับ
ร้านข้าวซอยป้าหล้า ขัวเหล็ก เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.00 น. แต่ถ้าของหมดก่อนก็ปิดร้านก่อน ไปเช้าๆ
น่าจะดีกว่า กันเหนียว
ร้านนี้ผมแนะนำนะครับ เพราะรสชาติดีเยี่ยม บริการมีน้ำใจ เป็นกันเอง รับรองไม่ผิดหวังสำหรับท่านที่ชื่นชอบข้าวซอย
ถ้ามาเชียงใหม่ห้ามพลาด ข้าวซอยป้าหล้า ด้วยประการทั้งปวงจ้า
@Ajbomb
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น